หมัดแมว คือสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่อาจติดมากับสัตว์เลี้ยงตัวโปรดของคุณ แต่หมัดแมวมีอันตรายต่อคนหรือไม่และเราจะมีวิธีกำจัดหมัดแมวอย่างไร วงจรชีวิตของหมัดแมวมีอะไรบ้าง ลองมาดูกันค่ะ
หมัดแมวคืออะไร ชวนรู้จักกับภัยร้ายตัวจิ๋ว

เชื่อว่าหลังจากที่หลายคนได้ยินข่าวการเสียชีวิตของ นางสาวสุนิสา ธรรมโม หรือ น้องมิว อายุ 17 ปี เราคงหันมาให้ความสนใจกับสิ่งมีชีวิตเล็กๆ ที่เรียกว่า “หมัดแมว” กันมากขึ้น ถึงแม้ว่าจากข้อเท็จจริง น้องจะเสียชีวิตด้วยโรคประจำตัว คือโรค SLE หรือที่รู้จักกันแพร่หลายในชื่อโรคแพ้ภูมิตัวเองหรือโรคพุ่มพวง แต่จากข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี้ก็ทำหลายคนก็ตื่นตระหนกเพราะคิดว่าหมัดแมวกัดคนแล้วจะเกิดอันตรายถึงชีวิตได้จริง โดยเฉพาะบรรดาคนรักสัตว์และผู้ที่คลุกคลีกับแมว

หมัดแมว คือ เเมลงดูดเลือดชนิดหนึ่ง ไม่มีปีกแต่สามารถกระโดดได้ไกลมาก ขนาดตัวยาวประมาณ 2 – 3 มิลลิเมตร ลำตัวแบนและมีขายาว มักอาศัยอยู่บนตัวของสัตว์เลี้ยงและดูดเลือดกินเป็นอาหาร ชื่อทางวิทยาศาสตร์ของมันคือ Ctenocephalides felis
วงจรชีวิตของหมัดแมวมีทั้งหมด 4 ระยะ ได้แก่ ไข่ ตัวอ่อน ดักเเด้ และตัวโตเต็มวัย มีระยะเวลาการเจริญเติบโตทั้งหมดอยู่ในช่วงระหว่าง 2 สัปดาห์ – 8 เดือน เมื่อเข้าสู่ช่วงโตเต็มวัยมันจะมีความตื่นตัวต่อการสั่นไหวของมนุษย์ สัตว์ ความดัน ความร้อน เสียงรบกวน ไปจนถึงก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่อยู่ในเลือดของสิ่งมีชีวิต หมัดแมวตัวเต็มวัยจะอาศัยอยู่บริเวณผิวหนังสัตว์โดยเฉพาะแมวแต่ที่ร้ายกว่านั้นคือเราสามารถพบมันในสุนัขได้ด้วย ส่วนหมัดแมวระยะอื่นอาจพบได้ตามสิ่งของที่เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง เช่น โซฟา พรม ที่นอน หมอน หรือสิ่งของอื่นๆ
หมัดแมวกัด อันตรายอย่างไร
เมื่อหมัดแมวกัดคน อาจทำให้เกิดอาการคัน ระคายเคือง บาดแผลเกิดการถลอกจากการเกา ในบางรายอาจเกิดอาการแพ้หมัดแมวจนทำให้เกิดตุ่มแดงและอาการแพ้รุนแรง นอกจากนี้หมัดแมวยังเป็นพาหะแพร่เชื้อโรคและเชื้อแบคทีเรียอีกด้วย
วิธีกำจัดหมัดแมวแบบเห็นผลจริง

1. ใช้ยาหยอดหมัดแมว
ยาหยอดหมัดแมวมีขายตามคลินิกสัตว์เลี้ยงหรือร้านขายของสัตว์เลี้ยงทั่วไป แต่ต้องเลือกยี่ห้อที่เชื่อถือได้และไม่เป็นอันตรายต่อสัตว์เลี้ยงด้วยนะคะ โดยยาหยอดหมัดแมวที่นิยมใช้กันมากก็คือยี่ห้อ Revolution วิธีใช้คือหยดลงบนหลังคอของแมวและนวดเบาๆ ให้ตัวยาซึมผ่านผิวหนัง โดยใช้ตามปริมาณที่ฉลากระบุเอาไว้
2. ซักปลอกหมอน ผ้าปูที่นอน และสิ่งของต่างๆ ในบ้านเป็นประจำ
ซักปลอกหมอน ผ้าห่ม ผ้าปูที่นอน พรม หรือสิ่งของอื่นๆ ที่มีการสัมผัสกับสัตว์เลี้ยงของเราให้สะอาดอยู่เสมอ รวมถึงหมั่นนำหมอนและที่นอนสัตว์เลี้ยงไปผึ่งแดดเป็นประจำ
3. ดูดฝุ่นและถูบ้านด้วยน้ำยาที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อโรค
ดูดฝุ่นให้ทั่วบริเวณบ้าน โดยเฉพาะตามซอก มุม และจุดอับต่างๆ จากนั้นถูพื้นด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ เช่น Dettol หรือไฮเตอร์เป็นประจำ
4. อาบน้ำให้สัตว์เลี้ยงอย่างสม่ำเสมอ
ควรอาบน้ำให้สัตว์เลี้ยงเป็นประจำ ถึงแม้ว่าแมวจะไม่จำเป็นต้องอาบน้ำ แต่เมื่อมีหมัดแมวมาเยือนก็จำเป็นต้องจับเจ้านายสี่ขาของเราลงอ่างเสียบ้างเพื่อรักษาสุขอนามัย แต่ควรอาบน้ำก่อนใช้ยาหยอดหมัดแมวนะคะ เพราะหลังจากหยอดยาแล้วต้องเว้นช่วงไม่ให้ผิวหนังของแมวสัมผัสน้ำเพื่อให้ยาออกฤทธิ์เต็มที่ หากเราหมั่นทำความสะอาดบ้านอย่างสม่ำเสมอควบคู่ไปกับการใช้ยาหยอดหมัดแมว จะเป็นการตัดวงจรชีวิตหมัดแมวและช่วยกำจัดเจ้าหมัดแมวตัวร้ายออกไปจากบ้านของเราได้ค่ะ
แม้ว่าหมัดแมวจะไม่ได้มีอันตรายถึงขั้นทำให้คนเสียชีวิต แต่สิ่งที่ตามมาเมื่อหมัดแมวกัดคนคืออาการคันรุนแรงและยังทำให้เราเสี่ยงติดเชื้อแบคทีเรียกจากน้ำลายหมัดอีกด้วย เพราะฉะนั้นใครที่เลี้ยงสัตว์หรือชื่นชอบการคลุกคลีกับสุนัขและแมวล่ะก็ อย่าลืมเช็กให้ดีนะคะว่าสัตว์เลี้ยงตัวโปรดของเรามีหมัดแมวหรือเปล่า เพื่อให้เราสามารถระมัดระวังและใช้มาตรการกำจัดหมัดแมวขั้นเด็ดขาดเพื่อสัตว์เลี้ยงที่เรารัก รวมถึงเพื่อการดูแลสุขภาพของเราเองด้วยค่ะ